smartguide

อาโอขิซากะ-ชิตะ, ไทเซขิจิ -มิจิโจยาโตะ” และ “มิจิ ชิรุเบะ
(โคมไฟกลางคืน และป้ายหินบอกเส้นทางสู่ไทเซขิจิ ที่เชิงเขาอาโอขิ)

 โจยาโตะ, โคมไฟกลางคืน, นี้ เป็นแสงสว่างที่รำลึก เพื่อตอบแทนหนี้พระคุณในวาระครบรอบ 600 ปีแห่งการดับขันธ์ของผู้ก่อตั้งนิกายของพวกเรา พระนิชิเร็นไดโชนิน โคมไฟถูกสร้างขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1881 โดยพระนิปปุโชนิน สังฆราชองค์ที่ 55 แห่งวัดใหญ่
 ตามบันทึก วาระครบรอบ 600 ปีแห่งการดับขันธ์ของผู้ก่อตั้งนิกายของพวกเรา พระนิชิเร็นไดโชนิน ได้จัดขึ้นในปีถัดมา ควบคู่กับวาระครบรอบ 550 ปีแห่งการดับขันธ์ของสังฆราชองค์ที่ 2 พระนิกโคโชนิน และสังฆราชองค์ที่ 3 พระนิชิโมขุโชนิน พิธีรําลึกนี้จัดขึ้นอย่างสง่างามเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ตามปฏิทินจันทรคติ โดยมีผู้นับถือฆราวาสจำนวนมากมายเข้าร่วมในพิธี
 รายชื่อผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างโคมไฟนี้ถูกสลักบนแท่นรองรับ "ผู้ริเริ่มการสร้าง, โคเรมุระ ซัมเป, จากหมู่บ้านอาโอขิ" และ "ผู้บริจาคที่ดิน, ฮิโรเสะ สึเนอุเอมง" ถูกสลักบนแท่นรองรับด้านทิศเหนือ รวมถึง "ช่างก่อสร้างงานหิน, ฮาตาโนะ โซคิจิ, จากชิมมาจิ หมู่บ้านคามิโจ เขตฟูจิ” บนแท่นรองรับอีกด้านหนึ่ง
 ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการสร้างเป็นเงินสนับสนุน ด้วยความศรัทธาอันบริสุทธิ์ โดย ผู้นับถือฆราวาสของวัดใหญ่ไทเซขิจิ รายชื่อทั้งหมด 73 คน และองค์กรฮกเคโค 1 แห่ง ที่ได้ให้การสนับสนุนถูกสลักไว้บนแท่นรองรับด้านทิศใต้และทิศเหนือ
 ในสมัยไทโช รถไฟที่ลากด้วยม้าชื่อฟูจิ คิโด ได้เริ่มวิ่ง ก่อนหน้านั้น วิธีการเดินทางมาจาริกแสวงบุญที่วัดใหญ่ไทเซขิจิ ใช้การเดินเท้าเป็นหลัก และเส้นทางที่ผู้นับถือใช้ขณะมาที่วัด เรียกว่า ไทเซขิจิ -มิจิ หรือเส้นทางสู่ไทเซขิจินั่นเอง
 พื้นที่อาโอขิซากะ-ชิตะเป็นทางแยกที่สำคัญระหว่างทางสู่ไทเซขิจิจากถนนโทไคโด ในอดีต มีสะพานข้ามแม่น้ำอูรุอิ-กาวะ ทางทิศตะวันออกของโคมไฟกลางคืน และ มิจิ ชิรูเบะ, ป้ายหินบอกทาง, ถูกวางไว้ที่เชิงสะพานทั้ง 2 ข้าง
 ตามตํานานที่เล่าขานกันมา ตลอดเส้นทางจากโคมไฟกลางคืนไปยังประตูโซมง แห่งไทเซขิจิเป็นถนนที่ปูด้วยหิน
 ใน ฟุงะขุ เฮียกเค (100 มุมมองของภูเขาไฟฟูจิ) โดยคัตสึชิกะ โฮคุไซ ซึ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงในสมัยเอโดะ มีภาพทิวทัศน์ที่บรรยายว่า "ภูเขาไฟฟูจิ เมื่อมองจากภูเขาแห่งไทเซขิจิ" สันนิษฐานได้ว่า นี่เป็นจุดระหว่างทางจากพื้นที่อาโอขิซากะ-ชิตะ ไปยังประตูโซมง ปัจจุบัน ยังคงมีร่องรอยที่กระจัดกระจายทั่วภูเขาที่ชวนให้พวกเรารำลึกถึงสมัยนั้น
 ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1881 ซึ่งเป็นปีที่สร้างโคมไฟกลางคืนนั้น ป้ายหินบอกทางถูกสร้างขึ้นโดย "ซูซูกิ คิวจิโร, จากหมู่บ้านชิโมโจ" ตรงเชิงโคมไฟ ป้ายหินบอกทางมีข้อความว่า "ซ้ายไปเส้นทางสู่ไทเซขิจิ ขวาไปถนนหมู่บ้านอุมามิซึกะ" เมื่อพิจารณาถึงการมีอยู่ของป้ายหินบอกทางอีก 2 ป้ายที่สร้างขึ้นในสมัยเทมโปในบริเวณนี้ คิดว่าป้ายหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในวาระครบรอบ 600 ปีแห่งการดับขันธ์ของผู้ก่อตั้งนิกายของพวกเรา พระนิชิเร็นไดโชนิน ป้ายหินบอกทางเหล่านี้ล้วนเคยมีบทบาทสำคัญในการนำทางผู้นับถือ ทั้งจากใกล้และไกล ไปยังวัดใหญ่ไทเซขิจิ
 ป้ายหินบอกทางตามเส้นทางสู่ไทเซขิจิเหล่านี้ถูกจัดวางไว้ตามจุดต่าง ๆ รอบวัดใหญ่ ด้วยความปรารถนาดีของบรรดาผู้นับถือที่ซื่อสัตย์ อย่างไรก็ตาม ป้ายหินบอกทางส่วนใหญ่สูญหายไป สืบเนื่องจากการก่อสร้างถนนในสมัยโชวะ ปัจจุบันนี้ พวกเรายังคงพบป้ายหินบอกทาง 9 ป้ายในเมืองฟูจิโนมิยะ และ 3 ป้ายอยู่ในบริเวณนี้
 ตรงบริเวณ 200 เมตรจากทางเหนือของโคมไฟกลางคืน มีอนุสาวรีย์หินที่มีคำจารึกไดโมขุ ลายมือของพระนิปปุโชนิน อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย "ฮิโรเสะ โยจุโร" และผู้สนับสนุนอื่น ๆ ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1881 คำแนะนําวิธีการเดินทางไปไทเซขิจิถูกจารึกไว้บนฐานของอนุสาวรีย์ ฉะนั้น อนุสาวรีย์แห่งนี้จึงเคยมีบทบาทเป็นป้ายบอกทางในอดีต เป็นที่ชัดเจนว่าชุดโครงการก่อสร้างนี้ เช่น การสร้างโคมไฟกลางคืน, ป้ายหินบอกทาง และอนุสาวรีย์ที่มีคำจารึกไดโมขุ ล้วนเป็นโครงการที่รำลึก ร่วมกับวาระครบรอบ 600 ปีแห่งการดับขันธ์ของผู้ก่อตั้งนิกายของพวกเรา พระนิชิเร็นไดโชนิน
 จนถึงตอนต้นของสมัยโชวะ ผู้อยู่อาศัยในละแวกใกล้เคียงได้ผลัดกันจุดโคมไฟกลางคืนทุกเย็น ดังนั้น แสงจึงส่องสว่างทุกคืน นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่าครอบครัวฮิโรเสะ ซึ่งอาศัยอยู่ด้านหน้าโคมไฟกลางคืน ได้เปิดแผงน้ำชา และต้อนรับผู้นับถือที่เดินทางไกลมายังไทเซขิจิอย่างอบอุ่น แม้ว่า แต่เดิม โคมไฟกลางคืนตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บนฝั่งตรงข้ามของถนนจากที่นี่ แต่เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ค. ศ. 2014 โคมไฟถูกย้ายมายังสถานที่ตั้งแห่งใหม่ และได้รับการบูรณะโดยพระนิชิเนียวโชนิน สังฆราชองค์ที่ 68 แห่งวัดใหญ่ของนิกายนิชิเร็นโชชู ด้วยความเข้าใจและความร่วมมือของชาวท้องถิ่น การย้ายดำเนินไป พร้อมกับโครงการขยายถนนโดยเมืองฟูจิโนมิยะ
 โคมไฟกลางคืนไม่ได้เป็นเพียงแสงที่ส่องสว่างเส้นทางสู่วัดใหญ่ไทเซขิจิ สำหรับบรรดาผู้นับถือจากทั่วประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น หากยังมีความหมายของ "แสงสว่างที่ถวาย" แด่พระรัตนตรัยอีกด้วย คำจารึกบนด้านหน้าของโคมไฟคือ คำว่า "ด้านหน้าโงะฮนซน" นี่เป็นข้อยืนยันเช่นกันว่า เส้นทางที่นําทางจากโคมไฟกลางคืนสู่วัดใหญ่นั้นได้ถูกใช้เป็น "เส้นทางจาริกแสวงบุญสู่ไทเซขิจิ"
 เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่โคมไฟกลางคืนไม่ได้พังทลายลงมา แต่โคมไฟยังคงรูปลักษณ์ที่โอ่อ่าจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีแผ่นดินไหวและภัยพิบัติมากมายในช่วงประวัติศาสตร์ที่ปั่นป่วน หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จก็ตาม
 โจยาโตะ, โคมไฟกลางคืน และ มิจิ ชิรุเบะ, ป้ายหินบอกทาง, เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่ควรสืบทอดต่อไปยังชนรุ่นหลังในอนาคต ไม่เพียงแต่ภายในนิกายนิชิเร็นโชชูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภายในชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย
 พวกเราขอแสดงความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่และผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันของพื้นที่นี้ ผู้ได้ปกป้องสถานที่ทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ของนิกายนิชิเร็นโชชูตลอดระยะเวลาอันยาวนาน



Smart Guide of Taisekiji precinct

日蓮正宗 総本山 大 石 寺
Taisekiji
Nichiren Shoshu Head Temple
©2024 All rights reserved